เราจะกินยาต้านเชื้อเอชไอวีแบบฉุกเฉิน จะกินแบบไหนอย่างไร ที่จะเหมาะสมกับตัวเองดี ????
ปัจจุบันการกินตาต้านไวรัสมี 2 แบบดังนี้
1. เพร็พ (PrEP) ย่อมาจาก Pre-Exposure Prophylaxis
2. เป็ป (PEP) ย่อมาจาก เรียกว่า post exposure prophylaxis
ซึ่งวิธีการทานในแบบที่ 1 เพร็พ (PrEP) คือการกินยาต้านก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี
เป็นการทานยาต้านไวรัส 1-2 ตัวเป็นประจำทุกวัน ในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวี
ค่อนข้างสูง เหมาะสมกับบุคคลที่มีรักผลเลือดต่าง ขอยกตัวอย่าง มีคู่เกย์คู่หนึ่ง ฝ่ายรุกเป็นผู้มีเชื้อเอชไอวี ฝ่ายรับเป็นผู้ที่ไม่มีเชื้อ หรือคนใดคนหนึ่งมีเชื้อเอชไอวีอยู่ใน แต่ทั้งคู่สมัครใจรักกัน.. และอยากใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน หรือกลุ่มคนที่มีคู่หลายคน มีกิ๊กเยอะ ไม่สามารถต่อรองกับคู่นอนตนเองได้ให้ใช้ถุงยางอนามัยกับตนเองเป็นต้น ซึ่งวิธีการนี้ก็เป็นวีธีการป้องกันตนเองจากเชื้อเอชไอวีอีกวิธีหนึ่งแต่ผู้ทานยาเพร็พต้องมีวินัยสูงมากๆ ในขณะเดียวกันก็ต้องใช้ถุงยางอนามัย พร้อมสารหล่อลื่นด้วยเช่นกัน
จากงานวิจัยหลายงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี่เอง พบว่าเพร็พลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีลงได้ประมาณ 40-70% โดยสำคัญที่สุดอยู่ที่ว่า ผู้ทานยามีความตั้งใจกินยาสม่ำเสมอแค่ไหน ผลในการป้องกันเชื้ออาจสูงขึ้นไปถึง 90% เลยด้วยซ้ำถ้ากินยาต้านได้ตรงต่อเวลา ประเด็นที่ต้องเน้นว่าผู้เลือกวิธีการป้องกันโดยการกินยาก่อนที่ตนเองจะไปสัมผัสเชื้อเอชไอวีนั้น บุคคลดังกล่าวต้องมีวินัยในการกินยาอย่างสม่ำเสมอ หากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดติดเชื้อขึ้นมา โดยไม่รู้ตัวระหว่างที่กินก็อาจจะเกิดเชื้อดื้อยาได้เพราะฉะนั้น นอกจากวินัยในการกินยาแล้ว ยังต้องมีวินัยในการตรวจเอชไอวีเป็นประจำอย่าง 3 เดือนครั้งสำหรับผู้ที่จะเลือกใช้วิธีการดังกล่าวในการป้องกันตนเอง

วิธีการทานในแบบที่ 2 เป็ป (PEP) ซึ่งชื่อนี้มาจากการแนวความคิดของคนทางการแพทย์ว่าต้องเกิดจากการโดนเข็มตำ หรืออุบัติเหตุที่เกิดจากทางการแพทย์ สำหรับคนที่มีพฤติกรรมทางเพศที่ไปเสื่ยงมาไม่ใช่บุคคลทางการแพทย์จะต้องใช้อีกคำหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนเองก็มองว่าเป็นเรื่องไร้สารมากๆ คุณผู้อ่านไม่จำเป็นต้องไปจำมันเพราะมันเป็นการแบ่งแยก และตีตรา แบ่งชนชั้นน่าหมั่นไส้เอาเป็นว่า ยามันก็ยาตัวเดียวกัน เวลาเดินไปคุยกับโรงพยาบาลก็บอกว่าชื่อแบบที่ผู้เขียนบอกนี้ละ..
ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็เป็นพฤติกรรมที่เราต้องกินยาต้านเอชไอวีหลังจากสัมผัสเชื้อเอชไอวีนั้นล่ะ..จริงๆ ตามแนวทางการแพทย์เขาแนะนำว่าต้องไปกินหลังสัมผัสเชื้อมาไม่เกิน 72 ชั่วโมง แต่บ่อยๆครั้งที่คุณผู้อ่านมักจะได้ยินผู้เขียนไปบรรยาย และบอกกับคนทั่วไปว่าให้มาทานภายในเวลา 48 ชั่วโมง จริงๆแล้วยิ่งคุณมาทานยาต้านเร็วขึ้นเท่าไร ประสิทธิภาพของการทานยามันก็จะดีขึ้นเท่านั้นละค่ะ ก็เป็นประโยชน์ของตัวคุณเอง...ไม่ใช่ของผู้เขียนเลย !!!!!
ประเด็นที่อยากนำเสนออีกประเด็นคือ.. หากคุณเลือกที่ป้องกันตนเองจากเชื้อเอชไอวีด้วยวิธีการการทานยาต้านฉุกเฉิน คุณต้องรู้ว่ายานั้นจะมาเป็นชุด ต้องกินอย่างน้อยๆ 28 วัน วันละประมาณ 2 เม็ด ปัจจุบันยังไม่มีการทานยาต้านแบบ 1 เม็ดคล้ายยาคุมกำเนิดแบบฉุนเฉิน.. ซึ่งตรงนี้เองเป็นช่องว่างที่ทำให้กลุ่มมิฉาชีพหาประโยชน์กับประชาชน เขาจะลอกขายยาต้านฉุกเฉินแบบ 1 เม็ดทานแล้วไม่เป็นเอดส์ ซึ่งถ้ามันเป็นยาปลอม (เอาวิตามินซี หรือแคลเซียม) มาหลอกขายคุณผู้อ่าน.. ก็ถือว่าคุณโชคดี.แต่ถ้ามันเป็นยาต้านจริงๆ แล้วแบ่งออกมาหลอกขายละก็.. คุณเองมีความเสี่ยงสูงมากหากว่าคุณติดเชื้อเอชไอวีขึ้นมาจริงๆ คุณเองมีโอกาสสูงมาที่จะเกิดภาวะดื้อยา..
ผลข้างเคืองสำหรับผู้ที่ทานยาต้านทั้งสองแบบ ในช่วงแรกๆ ส่วนใหญ่จะคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว หน้ามืด จะเป็นลม นอนหลับกระซับ กระซ่าย ม้วนท้อง บางรายฝันร้ายก็มี ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางคนทานไม่ครบ ต้องยุติการทานยา เรียกว่าทานไม่ครบ ซึ่งก็ยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลใจให้กับผู้น้นเข้าไปอีก
บ่อย ๆ ครั้งที่ผู้เขียนมักจะบอกกับผู้ที่โทรมาขอคำปรึกษาว่า คุณควรจะประเมินความเสี่ยงตนเอง และต้องเชื่อมั่นด้วยว่ามันเสี่ยงจริงๆ ถืงจะทานยาต้าน ไม่ใช่ว่า แค่มือไปโดนน้ำอสุจิ เผลอใจดูดเจี๋ยว และกลัวว่าจะติดเอดส์ กลัวจนเกินเหตุ ควรมีเหตุและผล และควรเข้ารับคำปรึกษาท้งก่อนและหลังการตรวจหาเชื้อเอชไอวี คุณจะได้ไม่ต้องเสียเงิน และเสียเวลา
สำหรับผู้ที่ทานยาต้านแล้วตามแนวทางการแพทย์กล่าวว่า “คุณผู้อ่านหลังทานยาต้านแล้วก็ควรที่จะตรวจหาเชื้อเอชไอวีหลังการทานต้านแล้ว 2 สัปดาห์นับจากวันสุดท้ายที่ทานยาครบน่ะ จะด้วยวิธีการใดก็ได้ว่าจะเป็น แบบ NAT หรือ Anti body และคุณยังควรที่จะไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพราะถ้าคุณยังคงมีเพศสัมพันธ์ คุณก็ยังคงเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีอยู่ค่ะ..
ธเนศว์ กาญธีรานนท์
30 พ.ค. 56
#เอดส์, #โรคเอดส์, #โรคติดต่อ, #เชื้อเอดส์, #เชื้อเอชไอวี, #HIV, #การป้องกันเอดส์, #ติดเชื้อ, #ตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์ , #ตรวจเอดส์เอง , #ตรวจHIV , #ผู้ติดเชื้อรายใหม่ , #ยาต้านไวรัส, #ชุดทดสอบHIV , #ตรวจเอดส์ที่บ้าน, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์