พูดถึง "โรคเอดส์" หรือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อเอชไอวี แม้ใครหลายคนจะรู้วิธีป้องกัน แต่บางครั้งก็แพ้ความ "เสียว" จนลืมคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา
ที่ต้องเปิดประเด็นในเรื่องนี้ เพราะมีรายงานจากการคาดการณ์สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี (HIV) ใน ปี 2558 ในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่า มีผู้ติดเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ 61,109 คน เสียชีวิต 3,341 คน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับยาต้านไวรัส 24,871 คน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,771 คน
สำหรับกลุ่มที่มีตัวเลขสูงสุด ยังคงหนีไม่พ้น กลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย 1,066 คน คิดเป็นร้อยละ 60 รองลงมา ภรรยาติดเชื้อจากสามี 259 คน คิดเป็นร้อยละ 15 และกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด 162 คน คิดเป็นร้อยละ 9.1 ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นกลุ่มเยาวชนอายุน้อยกว่า 25 ปี 974 คน คิดเป็นร้อยละ 53.4
นับเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก ถึงขนาดที่ นายโกวิท ยงวานิชกิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยังหวั่นๆ เลยว่า มหานครแห่งนี้จะกลับมาเผชิญกับปัญหา "เอดส์" อีกครั้ง โดยกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย พนักงานขายบริการเป็นกลุ่มที่น่าห่วงที่สุด รองลงมาเป็นกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด กลุ่มเด็กและเยาวชน เนื่องจากปัจจุบันสภาพแวดล้อมต่างๆ ยั่วยุให้เกิดปัญหาทางเพศและการใช้สารเสพติดได้ง่ายขึ้น
เมื่อเปิดดูผลการสำรวจของสถานการณ์โรคเอดส์ในไทย พบว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 9,000-10,000 คน สาเหตุของการติดเชื้อร้อยละ 85 มาจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกัน ส่วนกลุ่มที่มีการติดเชื้อมากที่สุด หากไม่นับการใช้เข็มฉีดยาร่วมกันแล้ว กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายยังคงครองแชมป์การติดเชื้อมากที่สุด และถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังมากที่สุด
แม้จะมีการรณรงค์ว่า "เอดส์ รู้เร็ว รักษาได้" แต่ผู้ป่วยเอดส์หลายคนต้องเผชิญกับความรังเกียจเดียดฉันท์จากสังคมบางกลุ่มอยู่ไม่น้อย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง การรับประทานอาหารร่วมกัน, โดยสารยานพาหนะด้วยกัน, พูดคุย สัมผัส หรือโอบกอดกัน, การใช้โทรศัพท์ร่วมกัน, ว่ายน้ำในสระหรือคลองเดียวกัน, ทำงานร่วมกัน, อยู่บ้านเดียวกัน รวมไปถึงการถูกกัดโดยยุงหรือแมลงตัวเดียวกันจะไม่ทำให้ติดเชื้อเอชไอวี แต่ก็ยากที่จะรับได้อยู่ดี
ดังนั้น ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์ทางใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือแม้แต่ทางปากหรือออรัลเซ็กซ์ เรื่องนี้ พญ.นิตยา ภานุภาค พึ่งพาพงศ์ แพทย์ประจำศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ได้เคยแนะนำเอาไว้ด้วยความเป็นห่วงว่า ควรที่จะมาตรวจเชื้อหาเอชไอวี โดยเฉพาะกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ซึ่งมีการร่วมรักกันผ่านทางทวารหนัก เพราะมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีมากกว่าการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดในผู้หญิงถึง 10 เท่า เนื่องจากทวารหนักมีความเปราะบางกว่าช่องคลอด
"จากการศึกษาพบว่า กลุ่มคู่ต่างคือฝ่ายหนึ่งมีการติดเชื้อเอชไอวี ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีการติดเชื้อนั้น ไม่ว่าจะเป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย หรือชายมีเพศสัมพันธ์กับหญิงนั้น หากผู้ติดเชื้อเป็นฝ่ายรุก ส่วนผู้ไม่ติดเชื้อเป็นฝ่ายรับ เมื่อมีการหลั่งน้ำภายในทวารหนักของฝ่ายชายหรือในช่องคลอดของฝ่ายหญิง ฝ่ายรับจะมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีมากกว่า แต่หากผู้ติดเชื้อเป็นฝ่ายรับ ส่วนผู้ไม่ติดเชื้อเป็นฝ่ายรุก กรณีเช่นนี้ฝ่ายรุกจะมีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่า" แพทย์ประจำศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทยให้สัมภาษณ์ผ่านบทความ "รุก-รับ" แบบไหนเสี่ยงเอดส์สุด
อย่างไรก็ตาม แม้ฝ่ายรุกที่ไม่ติดเชื้อจะมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีน้อยกว่า แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสติดเชื้อเลย ดังนั้น การป้องกันยังคงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น ซึ่งพื้นฐานในการป้องกันคือการใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์จะสามารถช่วยป้องกันโรคได้ และอีกแนวทางหนึ่งที่มีผลการศึกษาชัดเจนแล้วว่า การรักษาด้วยการรับยาต้านไวรัส สามารถป้องกันการแพร่เชื้อเอชไอวีได้ ไม่ว่าจะเป็นจากแม่ไปสู่ลูก หรือจากคู่รักไปสู่คู่รัก
อ่านถึงบรรทัดนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า โรคเอดส์ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเฉพาะตัว หลายเรื่องยังต้องเร่งแก้ไข ทั้งภูมิความรู้ความเข้าใจโรคเอดส์ของคนไทย รวมไปถึงทัศนคติที่ไม่ดีกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี เช่น โรคเอดส์เป็นแล้วต้องตาย หรือผู้ที่ติดเชื้อเป็นคนไม่ดี ทว่าในความจริงแล้วพฤติกรรมที่นำไปสู่การติดเชื้อ แม้คนดีหรือคนที่ไม่รู้เรื่องก็สามารถติดเชื้อได้ เช่น แม่บ้านติดเชื้อจากสามีสุดที่รัก หรือแม้กระทั่งติดไปถึงตัวลูกในครรภ์
แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็น่าจะเตือนใจคนในสังคมที่เปิดกว้างแบบนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าใครติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อบ้าง หากไม่แน่ใจ ต้องป้องกันทุกครั้งขณะมีเพศสัมพันธ์ อย่าปล่อยอารมณ์ไปกับความเสียวประเดี๋ยวประด๋าว เพราะมันไม่คุ้มกับผลที่จะตามมา
#เอดส์, #โรคเอดส์, #โรคติดต่อ, #เชื้อเอดส์, #เชื้อเอชไอวี, #HIV, #การป้องกันเอดส์, #ติดเชื้อ, #ตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์ , #ตรวจเอดส์เอง , #ตรวจHIV , #ผู้ติดเชื้อรายใหม่ , #ยาต้านไวรัส, #ชุดทดสอบHIV , #ตรวจเอดส์ที่บ้าน, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์
ต้อนรับปีใหม่ 2020
พบกับ
โปรโมชั่นดีๆ
ปี 2022
สำหรับลูกค้าโรงพยาบาล
/คลีนิค/สถานบริการ
เท่านั้น
หน้าที่เข้าชม | 1,162,696 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 698,933 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ก.ย. 2568 |