ปัจจุบันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับการรักษาผู้ติดเชื้อเอดส์ โดยการใช้ยาต้านไวรัสแต่เพียงอย่างเดียว เพราะยาต้านไวรัสมี ทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวของมัน
1. ข้อดี โดยการใช้สูตรยา HAART เป็นการใช้ยา 3 ตัวขึ้นไปคนไข้ที่ได้รับยาสูตรนี้ภายในระยะเวลา 4-6 เดือนเชื้อไวรัสจะลดลงจนไม่สามารถตรวจพบได้ ส่งผลให้ภูมิคุ้มกัน CD4 เกิดการเพิ่มขึ้น
2. ข้อเสีย คือ อาจจะก็ให้เกิดภาวะผิดปกติ ร่วมทั้งกลุ่มอาการ ( Syndrom ) ที่สืบเนื่องจากการใช้ยาต้านไวรัส เช่น ตับอักเสบ ,ไขมันในเส้นเลือดสูง , เป็นเบาหวาน , โรคไต ปลายประสาทอักเสบ, มีอาการปวดเมื่อยตามข้อตามตัว, มีผื่นขึ้นตามตัว เกิดภาวะไขมันเคลื่อนย้าย , แก้มตอบ , แขนขาลีบ , พุงโต
ด้วยเหตุผลนี้แนวคิดในการรักษา โดยการใช้ยาต้านไวรัสแต่เพียงอย่างเดียวได้เปลี่ยนไป แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้วิธีรักษาที่สมบูรณ์แบบ 2 ทางที่เรียกว่า Complementary treatment หมายถึงการรักษา ระหว่างแพทย์แผนปัจจุบัน ควบคู่ไปกับแพทย์ทางเลือก Alternative medicine โดยมีหลักการดังต่อไปนี้
1.จะใช้ยาต้านไวรัสเพื่อลดจำนวนเชื้อไวรัส จนไม่สามารถ ตรวจพบได้ ( ปริมาณไวรัสต่ำกว่า 50 ตัว ต่อ ลบ.มม.)
2.จะใช้วิธีป้องกันข้อเสียของยาต้านไวรัส โดยการซ่อมสร้างร่างกายโดยใช้วิธีที่เรียกกันว่าแพทย์ทางเลือก (Alternative medicine)
เช่นการใช้ยาสมุนไพรแบบสกัดที่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เชื่อได้ว่า มีฤทธิ์ในการปกป้อง ซ่อมสร้างร่างกาย เช่น ปกป้องตับ โดยการใช้ สมุนไพรเห็ดหลินจือชะเอมเทศ, ลูกใต้ใบ, ฟ้าทะลายโจร, มะระขี้นกก็ยังมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย การใช้วิตามินC วิตามิน B6 วิตามินรวมเกลื่อแร่ การใช้น้ำมันปลาในกลุ่มโอเก้า3 ป้องกันไขมันในเส้นเลือดสูง การใช้ผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารบางชนิดช่วยด้วยสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่จะช่วยให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น สามารถช่วยปกป้องผลข้างเคียง ที่เกิดจากยาต้านไวรัส และต้องคอยเฝ้าระวังเจาะเลือดตรวจตับ ตรวจไต ตรวจไขมันในเส้นเลือด ตรวจน้ำตาลใน เลือดทุก 3 เดือนหรือเจาะเลือดตรวจทันที ที่สงสัยว่าอาจจะมีผลข้างเคียงที่สืบเนื่องมาจากการใช้ยาต้านไวรัส
จากแนวคิดการรักษาโดย การใช้ยาต้านไวรัส ควบคู่กันไปกับการซ่อมสร้างร่างกาย Complementary treatment ดังกล่าว ซึ่งวิธีการนี้มันก็เหมือนกับการรักษาคนไข้ที่เป็นวัณโรค เช่นถ้าแพทย์ที่รักษาให้แต่ยารักษาวัณโรคอย่างเดียวโดยที่ไม่ฟื้นฟูสุขภาพร่างกายของคนไข้ควบคู่ร่วมไปด้วย เราจะเห็นได้ชัดเจนว่า คนไข้มักจะโซมผอมแห้ง มาก เพราะฉะนั้นการรักษาคนไข้ HIV จึงควรรักษา 2 ทางควบคู่กันไป จะได้ผลที่ดีกว่า การให้แต่ยาต้านไวรัสเพียงด้านเดียว
#เอดส์, #โรคเอดส์, #โรคติดต่อ, #เชื้อเอดส์, #เชื้อเอชไอวี, #HIV, #การป้องกันเอดส์, #ติดเชื้อ, #ตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์ , #ตรวจเอดส์เอง , #ตรวจHIV , #ผู้ติดเชื้อรายใหม่ , #ยาต้านไวรัส, #ชุดทดสอบHIV , #ตรวจเอดส์ที่บ้าน, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #ยารักษาเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #เครื่องตรวจเอดส์, #ตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง, #ตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง, #ชุดตรวจโรคเอดส์ด้วยตนเอง, #ชุดตรวจโรคเอดส์ด้วยตนเอง
ต้อนรับปีใหม่ 2020
พบกับ
โปรโมชั่นดีๆ
ปี 2022
สำหรับลูกค้าโรงพยาบาล
/คลีนิค/สถานบริการ
เท่านั้น
หน้าที่เข้าชม | 1,162,696 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 698,933 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ก.ย. 2568 |