การรับประทานยาต้านไวรัสล่วงหน้าในผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อเอชไอวี,

สรุปผลการศึกษา ความส าคัญ/ที่มา : ประสิทธิผลของการใช้ยาต้านไวรัสล่วงหน้าในผู้ที่ยัง ไม่ติดเชื้อเอชไอวี(PrEP) ขึ้นอยู่กับการรับประทาน ความร่วมมือในการ ทานยา และการมีเพศสัมพันธ์ ทางโครงการจึงมีจุดมุ่งหมายในการประเมิน ปัจจัยเหล่านี้ในกลุ่มประชากรที่มีผลเอชไอวีเป็นลบและมีความเสี่ยงต่อการ ติดเชื้อ วิธีการ : ทางโครงการฯ ได้รับอาสาสมัครชายและสาวประเภทสองที่มี เพศสัมพันธ์กับชาย ที่เคยเข้าร่วมโครงการศึกษาการรับประทานยาต้าน ไวรัสล่วงหน้าเพื่อป้องกันเอชไอวี (PrEP) (ได้แก่โครงการ ATN 082, iPrEx และ US Safety Study) โดยรับเข้ามาเพื่อรับการติดตามขยายเพิ่ม ไปอีก 72 สัปดาห์ และรับประทานยาแบบเปิดฉลาก (คือไม่มีการให้ยา เลียนแบบ และทราบว่าเป็นยาอะไร) ทางโครงการฯได้วัดความเข้มข้นของ ยาในพลาสมา และจาก dried blood spot ในกลุ่มที่ติดเชื้อเอชไอวี และสุ่ม ตัวอย่างของอาสาสมัครที่ไม่ติดเชื้อ ทางโครงการฯ ได้ประเมินจากการ รับประทานยาต้านไวรัสล่วงหน้าเพื่อป้องกัน ความร่วมมือในรับประทานยา อย่างสม่ าเสมอ การมีเพศสัมพันธ์และอุบัติการณ์ของการเกิดการติดเชื้อ เอชไอวี โดยใช้วิธีการวิเคราะห์ทางสถิติแบบปัวซอง แบบเปรียบเทียบแบบ สัดส่วน และแบบ generalized estimating equations 2 ผลการศึกษา: ทางโครงการได้รับอาสาสมัครผู้ที่มีผลเอชไอวีเป็นลบจ านวน 1,603 คน โดยได้รับยาต้านไวรัสล่วงหน้าเพื่อป้องกันจ านวน 1,225 คน (76 %) พบว่าการใช้ยาจะสูงในกลุ่มที่รายงานว่ามีเพศสัมพันธ์ทางทวาร หนักโดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย (416/519 [81%] และ 809/1084 [75%], p=0.003) และในกลุ่มที่มีการตรวจพบการติดเชื้อเริม (612/791 [77%] และ 613/812 [75%] p=0.03) โดยในกลุ่มที่ได้รับยาต้านไวรัสล่วงหน้า เพื่อป้องกันนั้น พบอุบัติการณ์ของการติดเชื้อเอชไอวีเป็น 1.8 ต่อ 100 คน- ปีเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่เลือกใช้ยาต้านไวรัสล่วงหน้าเพื่อป้องกันคือ 2.6 ต่อ 100 คน-ปี (HR 0.51,95% CI 0.26-1.01, ได้ปรับข้อมูลพฤติกรรมการ มีเพศสัมพันธ์) และเทียบกับ 3.9 ต่อ 100 คน-ปี ในกลุ่มที่เคยได้รับยา เลียนแบบส าหรับระยะสุ่ม (HR 0.49, 95% CI0.31-0.77) ในผู้ที่ได้รับยา ต้านไวรัสล่วงหน้าเพื่อป้องกัน (PrEP)นั้น ในคนที่ตรวจไม่พบยาจากการ ตรวจเลือดใน dried blood spot พบอุบัติการณ์การติดเชื้อเอชไอวีเป็น 4.7 ต่อ 100 คน-ปี, ส าหรับคนที่มีความเข้มข้นของยาในเลือดที่คาดว่ามีการใช้ ยาในปริมาณน้อยกว่า 2 เม็ดต่อสัปดาห์มีการติดเชื้อเอชไอวี 2.3 ต่อ 100 คน-ปี, ส าหรับคนที่ใช้ยา 2 – 3 เม็ดต่อสัปดาห์พบการติดเชื้อเอชไอวี 0.6 ต่อ 100 คน-ปี, และส าหรับคนที่ใช้ยา 4 เม็ดต่อสัปดาห์ หรือมากกว่านั้น พบ การติดเชื้อเอชไอวี0.0 ต่อ 100 คน-ปี (p<0.0001) ความเข้มข้นของยา ในกลุ่มที่ใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีล่วงหน้าเพื่อการป้องกัน (PrEP) นี้ในกลุ่ม วัยผู้ใหญ่จะสูงกว่ากลุ่มที่อยู่ในวัยเรียน, ในคนที่รายงานว่ามีเพศสัมพันธ์ ทางทวารหนักโดยเป็นฝ่ายรับและไม่ใช้ถุงยางอนามัย, ในคนที่มีคู่นอน มากกว่าหนึ่งคน และในคนที่มีประวัติเป็นซิฟิลิสหรือเริมมาก่อน การแปลผล: การใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีล่วงหน้าเพื่อการป้องกัน (PrEP) นี้ จะสูงขึ้น หากยานั้นได้มาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายภายใต้การดูแลของผู้ 3 ให้บริการทางสุขภาพที่มีประสบการณ์พบว่าการรับประทานยาต้านไวรัส ล่วงหน้าเพื่อการป้องกันจะมีเพิ่มขึ้น โดยรับประทานมากขึ้นและสม่ าเสมอ ในช่วงที่มีความเสี่ยงสูง และความเข้มข้นของยาใน dried blood spot จะ สัมพันธ์อย่างชัดเจนกับประโยชน์ที่ได้จากการป้องกัน

#เอดส์, #โรคเอดส์, #โรคติดต่อ, #เชื้อเอดส์, #เชื้อเอชไอวี, #HIV, #การป้องกันเอดส์, #ติดเชื้อ, #ตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์ , #ตรวจเอดส์เอง , #ตรวจHIV , #ผู้ติดเชื้อรายใหม่ , #ยาต้านไวรัส, #ชุดทดสอบHIV , #ตรวจเอดส์ที่บ้าน, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #ชุดตรวจเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์, #โรคเอดส์